Popular Essential Oil Scents 🍀 : Sandelwood
หนึ่งในน้ำมันหอมระเหยโทนไม้ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ไม้จันทร์ (Sandelwood) เป็นไม้ที่มีลักษณะเนื้อสีเหลือง เนื้อละเอียด วิธีการสกัดน้ำมันหอมระเหยใช้วิธีกลั่นด้วยไอน้ำ (Steam Distillation Process) แต่เรายังสามารถใช้วิธีการสกัดแบบต่างๆได้อย่างอื่น อาทิเช่น "การสกัดด้วยคาร์บอนไดออกไซด์" หรือการสกัดด้วยตัวทำละลาย ในขั้นตอนการสกัดด้วยไอน้ำ ต้องใช้อุณหภูมิในการต้อมน้ำประมาณ 60-100 องศาเซลเซียส เพื่อให้น้ำเดือดเป็นไอและไหลผ่านไม้จันทร์ที่เตรียมไว้ หลังจากนั้นไอน้ำจะไหลเข้าผ่านขั้นตอน "การควบแน่น" และรอการแยกชั้นประมาณ 14-36 ชั่วโมง จะทำให้เราได้น้ำมันหอมระเหยไม้จันทร์และส่วน Hydrosol นำไปใช้ตามต้องการได้
น้ำมันหอมระเหย Sandelwood ราคาเท่าไร?
ราคาเฉลี่ยในท้องตลาด 1kg 90,000-100,000 บาท ขึ้นกับคุณภาพน้ำมันหอมระเหย ปัจจุบัน นิยมใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และทางการแพทย์ในรูปแบบ Aromatherapy กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยไม้จันทร์ นอกจากสร้างมิติที่น่าค้นหา มีเสน่ห์ อบอุ่น ในทางสรรพคุณในการช่วยบำบัดโรคทางเดินหายใจ และลดการอักเสบของผิวหนังได้
สารประกอบสำคัญของ Sandelwood มีอะไรบ้าง?
41-55% α-santalol
16-24% β–santalol
ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางใช้ Sandelwood Essential Oil อะไรได้บ้าง?
ในทางน้ำหอม Sandel Wood Oil จัดเป็นกลุ่ม Base Note เพราะคุณสมบัติ การระเหยช้า และกลิ่นที่ให้มีลักษณะค่อนข้างหนักแน่น ซึ่งเราสามารถใช้ในการตรึงกลิ่นให้ระยะเวลาน้ำหอมยาวนานยิ่งขึ้น (fixactive) โดยส่วนากนักปรุงน้ำหอม จะนำ Sandelwood เป็นส่วนผสมหลัก ในกลุ่มน้ำหอมโทน Floriental โดยนำไปผสมกับกลุ่มดอกไม้ อาทิเช่น มะลิ, กระดังงา เป็นต้น
หมวดสินค้าที่นิยมไปใช้
น้ำหอม
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย และหนังศรีษะ เช่น สบู่ และแชมพู
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย เช่น โลชั่นน้ำหอม และครีมบำรุงผิว
ผลิตภัณฑ์เครื่องหอม เช่น สเปรย์ปรับอากาศ, เทียนหอม, ถุงหอม และก้านหอม
TIPS:
นอกจากนี้กลิ่นของ Sandelwood นอกจากให้กลิ่นที่กล่าวมาข้างต้น แต่ยังเป็นกลิ่นที่อบอวลด้วยจิตวิญญาณที่ผูกผันของคนเอเซีย เนื่องจากไม้จันทร์ เป็นไม้ที่ได้รับความนิยมในการใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งเราอาจพบเห็นได้ตามศาสนสถานในประเทศ จีน เกาหลี และญี่ปุ่นอีกด้วย
Comments